บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 13
วันพุธที่ 29 มีนาคม 2560
เวลาเรียน 8.30-12.30 น.
เนื้อหาที่เรียน
ก่อนการเรียนการสอน อาจารย์ให้นักศึกษาทำกิจกรรรมก่อน
1.กิจกรรมมือของฉัน
โดยอาจารย์ให้นักศึกษาวาดรูปมือของตัวเอง โดยการให้วางมือข้างที่ไม่ถนัดลงบนกระดาษแล้วให้ใช้มือข้างที่ถนัดวาดฝ่ามือของตนเองแล้ววาดฝ่ามือให้เหมือนที่สุด โดยที่ไม่ต้องหงายฝ่ามือของตนเองขึ้นมาดู จากนั้นอาจารย์ก็ให้นักศึกษานำมาส่งอาจารย์ อาจารย์สลับภาพวาดของนักศึกษาแล้วแจกให้เพื่อน ทุกคนจะได้ภาพวาดคนละ 1 แผ่น และจะต้องไม่ซ้ำเป็นของตัวเอง จากนั้นอาจารย์ให้นักศึกษาไปตามหาว่าภาพที่ตนเองได้เป็นภาพวาดของเพื่อนคนไหนโดยดูจากฝ่ามือ
จากการทำกิจกรรมนี้ ทำให้ทราบว่าเมื่อสังเกตพฤติกรรมเด็ก จะต้องจดบันทึกไว้เสมอ เพราะเมื่อเวลาผ่านไปเราอาจจะจำไม่ได้ เหมือนกับลายมือตนเองที่ติดตัวมาตั้งเเต่เกิด เราก็ยังจำไม่ได้ว่าเป็นอย่างไร
2.กิจกรรมวงกลมหลากสี
กิจกรรมนี้ครูให้นักศึกษาวาดรูปวงกลม ตามจินตนาการของตนเอง จะวาดรูปวงกลมเล็ หรือใหญ่ก็ได้ โดยครูจะมีสีเทียนให้ จากการทำกิจกรรมนี้ เป็นกิจกรรมที่แสดงออกถึงความรู้สึกของตัวเราตามหลักจิตวิทยา โดยสีที่อยู่ตรงกลางหมายถึงสีที่แสดงถึงความรู้สึกลึกๆที่อยู่ภายในจิตใจของเรา และสีที่อยู่ภายนอกหมายถึงสิ่งที่เราแสดงออกมาให้คนอื่นได้เห็น จากนั้นครูก็ให้นักศึกษาออกมาติดรู
ก่อนการเรียนการสอน อาจารย์ให้นักศึกษาทำกิจกรรรมก่อน
1.กิจกรรมมือของฉัน
จากการทำกิจกรรมนี้ ทำให้ทราบว่าเมื่อสังเกตพฤติกรรมเด็ก จะต้องจดบันทึกไว้เสมอ เพราะเมื่อเวลาผ่านไปเราอาจจะจำไม่ได้ เหมือนกับลายมือตนเองที่ติดตัวมาตั้งเเต่เกิด เราก็ยังจำไม่ได้ว่าเป็นอย่างไร
2.กิจกรรมวงกลมหลากสี
โปรแกรมการศึกษาเฉพาะบุคคล (Individualized Education Program)
แผน IEP
• แผนการศึกษาที่ร่างขึ้น
• เพื่อให้เด็กพิเศษแต่ละคนได้รับการสอน และการช่วยเหลือฟื้นฟูให้เหมาะสมกับความต้องการและความสามารถของเขา
• ด้วยการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก
• โดยระบุเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดการใช้แผนและวิธีการวัดประเมินผลเด็ก
การเขียนแผน IEP
• คัดแยกเด็กพิเศษ
• ครูต้องรู้ว่าเด็กมีปัญหาอะไร
• ประเมินพัฒนาการเด็กเป็นระยะ จะทำให้ทราบว่าจะต้องเริ่มช่วยเหลือเด็กจากจุดไหน ในทักษะใด
• เด็กสามารถทำอะไรได้ / เด็กไม่สามารถทำอะไรได้
• แล้วจึงเริ่มเขียนแผน IEP
IEP ประกอบด้วย
• ข้อมูลส่วนตัวของเด็ก
• ระบุว่าเด็กมีความจำเป็นต้องได้รับบริการพิเศษอะไรบ้าง
• การระบุความสามารถของเด็กในขณะปัจจุบัน
• เป้าหมายระยะยาวประจำปี / ระยะสั้น•ระบุวัน เดือน ปี ที่เริ่มทำการสอน และคาดคะเนการสิ้นสุดของ
แผน
• วิธีการประเมินผล
ประโยชน์ต่อเด็ก
• ได้เรียนรู้ตามความสามารถของตน
• ได้มีโอกาสพัฒนาตามศักยภาพของตน
• ได้รับการศึกษาและฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม
• ถ้าเด็กเข้าเรียนในโรงเรียนจะไม่ถูกจัดเข้าชั้นเรียนเฉยๆ
ประโยชน์ต่อครู
• เป็นแนวทางการจัดการเรียนการสอนที่ตรงกับความสามารถและความต้องการของเด็ก
• เป็นแนวทางในการเลือกสื่อการสอนและวิธีการสอนให้เหมาะกับเด็ก
• ปรับเปลี่ยนได้เมื่อความต้องการเปลี่ยนแปลงไป
• เป็นแนวทางในการประเมินผลการเรียนและการเขียนรายงานพัฒนาการความก้าวหน้าของเด็ก
• ตรวจสอบและประเมินได้เป็นระยะ
ประโยชน์ต่อผู้ปกครอง
• ได้มีส่วนร่วมในการจัดทำแผนการเรียนรายบุคคล เพื่อให้เด็กได้พัฒนาความสามารถได้สูงสุดตามศักยภาพ
• ทราบร่วมกับครูว่าจะฝึกลูกของตนอย่างไร
• เกิดความร่วมมือในการพัฒนาเด็ก มีการติดต่อสื่อสารกันอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิดระหว่างบ้านกับโรงเรียน
ขั้นตอนการจัดทำแผนการศึกษารายบุคคล
1. การรวบรวมข้อมูล
• รายงานทางการแพทย์
• รายงานการประเมินด้านต่างๆ
• บันทึกจากผู้ปกครอง ครู และผู้ที่เกี่ยวข้อง
2. การจัดทำแผน
• ประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง
• กำหนดจุดมุ่งหมายระยะยาวและระยะสั้น
• กำหนดโปรแกรมและกิจกรรม
• จะต้องได้รับการรับรองแผนการศึกษาเฉพาะบุคคลจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
การกำหนดจุดมุ่งหมาย
• ระยะยาว
• ระยะสั้น
จุดมุ่งหมายระยะยาว
• กำหนดให้ชัดเจน แม้จะกว้าง
– น้องนุ่นช่วยเหลือตนเองได้
– น้องดาวร่วมมือกับผู้อื่นได้ดีขึ้น
– น้องริวเข้ากับเพื่อนคนอื่นๆได้
จุดมุ่งหมายระยะสั้น
• ตั้งให้อยู่ภายใต้จุดมุ่งหมายหลัก
• เป็นพฤติกรรมที่เด็กสามารถทำได้ในระยะ 2-3 วัน หรือ 2-3 สัปดาห์
• จะสอนใคร
• พฤติกรรมอะไร
• เมื่อไหร่ ที่ไหน (ที่พฤติกรรมนั้นจะเกิด)
• พฤติกรรมนั้นต้องดีขนาดไหน
ตัวอย่าง
• ใคร
• อะไร
• เมื่อไหร่ / ที่ไหน
• ดีขนาดไหน
• ใคร
• อะไร
• เมื่อไหร่ / ที่ไหน
• ดีขนาดไหน
3. การใช้แผน
• เมื่อแผนเสร็จสมบูรณ์ ครูจะนำไปใช้โดยจะใช้แผนระยะสั้น
• นำมาทำเป็นจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
• แยกย่อยขั้นตอนการสอนให้เหมาะกับเด็ก
• จัดเตรียมสื่อและจัดกิจกรรมการเรียนการสอ
• ต้องมีการสังเกตเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเด็กและความสามารถ โดยคำนึงถึง
1.ขั้นตอนพัฒนาการของเด็กปกติ
2.ตัวชี้วัดพื้นฐานที่เกี่ยวกับปัญหาของพัฒนาการเด็ก
3.อิทธิพลของสิ่งแวดล้อมของเด็กและผู้ใหญ่ที่มีผลต่อการแสดงออกของเด็ก
4. การประเมินผล
• โดยทั่วไปจะประเมินภาคเรียนละครั้ง หรือย่อยกว่านั้น
• ควรมีการกำหนดวิธีการประเมิน และเกณฑ์วัดผล
การนำมาประยุกต์ใช้
-สามารถนำมาปรับใช้ในการจัดการศึกษา การจัดการเรียนการสอนให้เด็กๆในชั้นเรียนได้อย่างเหมาะสม
-สามารถนำเอาโปรแกรมการศึกษารายบุคคลที่เรียนมา มาใช้ในการเขียนแผน IEP ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับเด็กพิเศษแต่ละประเภทได้
-นำมาเป็นความรู้เพื่อต่อยอดการเรียนต่อไปในอนาคตได้
ประเมินผล
ประเมินตนเอง
มาเรียนแต่เช้า เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย เตรียมชีคเอกสารที่ต้องนำมาเรียน ตั้งใจเรียนและจดบันทึกเนื้อหาสาระสำคัญ
ประเมินเพื่อน
เพื่อนๆตั้งใจเรียน ส่วนใหญ่แต่งกายเรียบร้อย ไม่พูดคุยกันในระหว่างที่อาจารย์สอน ช่วยกันตอบคำถาม และให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมทุกอย่าง
ประเมินอาจารย์
อาจารย์เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ใจดี เป็นกันเองกับนักศึกษา อาจารย์อธิบายการเขียนแผน IEP ได้อย่างเข้าใจ มีการยกตัวอย่างประกอบการสอน
การนำมาประยุกต์ใช้
-สามารถนำมาปรับใช้ในการจัดการศึกษา การจัดการเรียนการสอนให้เด็กๆในชั้นเรียนได้อย่างเหมาะสม
-สามารถนำเอาโปรแกรมการศึกษารายบุคคลที่เรียนมา มาใช้ในการเขียนแผน IEP ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับเด็กพิเศษแต่ละประเภทได้
-นำมาเป็นความรู้เพื่อต่อยอดการเรียนต่อไปในอนาคตได้
ประเมินผล
ประเมินตนเอง
มาเรียนแต่เช้า เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย เตรียมชีคเอกสารที่ต้องนำมาเรียน ตั้งใจเรียนและจดบันทึกเนื้อหาสาระสำคัญ
ประเมินเพื่อน
เพื่อนๆตั้งใจเรียน ส่วนใหญ่แต่งกายเรียบร้อย ไม่พูดคุยกันในระหว่างที่อาจารย์สอน ช่วยกันตอบคำถาม และให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมทุกอย่าง
ประเมินอาจารย์
อาจารย์เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ใจดี เป็นกันเองกับนักศึกษา อาจารย์อธิบายการเขียนแผน IEP ได้อย่างเข้าใจ มีการยกตัวอย่างประกอบการสอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น